Limousine-Taxi service by NUCHNAMCHOK

Tuesday, October 14, 2008

คลิปหน้าคล้ายมาริโอ้หลุด

ลือมีคลิปหน้าเหมือนอึ๊บสาวหลุด พระเอกหน้าใส มาริโอ้ อึกอักปิดปากไม่พูด อ้างยังไม่เห็น รับมือถือหายแต่ยันไม่เคยถ่ายคลิปกับแฟนสาว "กุ๊บกิ๊บ" เผยไม่ซีเรียส และไม่คิดฟ้องร้องคนปล่อย แย้มกำลังตามดูคลิปอยู่เหมือนกัน
เล่นเอาหน้าซีดตอบแบบอึกอักไม่เต็มปากเต็มคำ หลังถูกกลุ่มผู้สื่อข่าวรุมถามถึงคลิปหลุดหน้าเหมือน ที่กำลังอึ๊บสาวที่มีหน้าตาคล้ายหวานใจ "กุ๊บกิ๊บ" เช่นกัน แต่พระเอกหน้าใส มาริโอ้ เมาเร่อ ยอมรับว่ามือถือเพิ่งหาย แต่มั่นใจไม่มีคลิปเพราะมือถือถ่ายรูปได้อย่างเดียว
"ผมขอไม่พูดดีกว่าเพราะผมยังไม่เห็น เลยไม่สามารถบอกได้ว่าอะไรยังไง (พูดเหมือนมีแต่ไม่แน่ใจ?) คือผมไม่รู้ว่าคลิปเป็นยังไง ที่บอกหน้าเหมือนผมเป็นยังไง ผมเลยต้องขอดูก่อนแล้วจะบอกได้ว่า มันใช่ผมหรือเปล่า"
"ส่วนที่บอกว่าผู้หญิงหน้าเหมือนกุ๊บกิ๊บด้วย อันนี้ผมก็ไม่ขอออกความเห็น เพราะผมยังไม่เห็น และโดยส่วนตัวผมไม่เคยถ่ายคลิปกุ๊บกิ๊บ ไม่มีแน่นอน เพราะมือถือผมเป็นรุ่นที่ถ่ายรูปได้อย่างเดียว และมีรูปผมกับกิ๊บแค่รูปเดียวเอง นอกนั้นเป็นรูปรถยนต์ ส่วนเรื่องคลิปไม่มีแน่ แต่ที่มีข่าวแบบนี้ออกมา เพราะไม่นานมานี้มือถือผมหายจากนั้นก็มีข่าวออกมาเลย"
ต่อข้อซักถามที่ว่า รู้สึกเครียดหรือหวั่นๆ กับคลิปที่กำลังจะปล่อยออกมาหรือไม่ พระเอกหน้าใสเผยความรู้สึกว่า
"ไม่หวั่นเพราะเรารู้ตัวเองและมั่นใจว่าไม่มี มันเป็นเรื่องปกติของสมัยนี้ที่ใครมีมือถือ ก็สามารถมีคลิปหลุดได้ จะเป็นดาราหรือไม่เป็นดาราก็มีคลิปหลุดได้ ผมว่าเป็นเรื่องส่วนตัวและเป็นเรื่องที่ไม่เห็นต้องไปซีเรียสเลย มันมีอะไรให้ซีเรียสกว่านั้นเยอะ"
"ถ้ามีคลิปออกมาจริงๆ ถามว่าโอ้จะฟ้องร้องหรือเปล่า คงไม่ฟ้องครับเพราะไม่มีแน่นอน ส่วนถ้าแค่หน้าเหมือนหรือเป็นคนแอบอ้าง โอ้ขอไม่ออกความเห็นอะไร นี่โอ้ว่าจะไปถามพี่เขาให้ช่วยหาคลิปมาให้ดูเหมือนกัน อยากรู้ว่าเป็นยังไง"

ข้อมูลจาก :

ไม่มีครั้งใด...แตกแยก เท่าครั้งนี้!


ห้องอาหารของบริษัทหลายแห่ง ปิดป้ายงดวิจารณ์การเมือง
วงสนทนาของเพื่อนฝูงที่เมื่อก่อนพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง ชั่วโมงนี้ ถ้าไม่อยากให้วงเหล้าจืดชืด ต้องไม่เอาเรื่อง พันธมิตรฯ กับ ทักษิณ มาเป็นประเด็นสนทนา
หลายครอบครัวในเมือง เถียงกันเรื่องการเมือง ฝ่ายเมียอาซิ่ม นั่งดู การชุมนุมของพันธมิตรฯ จากเอเอสทีวี ทั้งวันทั้งคืน ปากก็ด่า รัฐบาลทรราช ตำรวจป่าเถื่อน
ขณะที่ผัว อาแป๊ะ เกลียดพันธมิตรฯ และพรรคประชาธิปัตย์เข้ากระดูกดำ ก่นด่าและสาปแช่งวันละสามเวลา ก่อนหน้านี้ ผัวเมียคู่นี้เคยไปวิ่งออกกำลังกายที่สวนรถไฟด้วยกัน แต่เดี๋ยวนี้ต่างคนต่างอยู่ ไม่หันหน้ามาคุยกัน เพราะคุยกันครั้งใด เป็นต้องเถียงกัน แหลกราญ ล่าสุด เมียอาซิ้ม ออกจากบ้านไปร่วมชุมนุม ไม่กลับบ้าน อาแป๊ะ เซื่องซึม ไม่พูดกับใครที่จังหวัดนครราชสีมา ชาวบ้านตั้งวงกินเหล้า เปิดทีวีดูข่าวตำรวจสลายม็อบ คนหนึ่งเชียร์ตำรวจ อีกคนเชียร์พันธมิตรฯ เถียงกันไปเถียงกันมา ฝ่ายด่าม็อบชักมีดแทงฝ่ายเชียร์ม็อบพันธมิตรฯ ดับ
ส.ส. พรรครัฐบาล ยอมรับว่า แม่ของตัวเอง มาร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ ขับไล่รัฐบาล
แม่ค้าตลาดสะพานควาย เบื่อม็อบเต็มที หลุดปากว่าตำรวจน่าจะจัดการไอ้พวกม็อบให้ราบคาบ ขายของไม่ได้แล้ว
ในกองบรรณาธิการข่าวหลายแห่ง เกิดปัญหานักข่าวอิน กบกลุ่มพันธมิตรฯ อย่างถอนตัวไม่ขึ้น บางคนกลายเป็นหน่วยข่าวของพันธมิตรฯ และปกป้องพันธมิตรฯ อย่างออกหน้า นักข่าวสาวใหญ่คนหนึ่งทำงานให้ แป๊ะลิ้ม แต่สามีของเธอเป็นนักเขียนประจำแมกกาซีน "ฟ้าเดียวกัน"
เดี๋ยวนี้ เวลาขึ้นแท็กซี่ ห้ามพูดเรื่องการเมือง หรือแม้แต่โทรมือถือด่าทักษิณ เพราะผู้โดยสารกับแท็กซี่อาจทะเลาะกันด้วยเรื่องการเมือง
เดี๋ยวนี้ นักข่าวไปสัมภาษณ์แหล่งข่าว คำถามแรกที่แหล่งข่าวรุกถามนักข่าวก่อนก็คือ ...คุณเป็นพวกไหน !!!
ขณะที่ในรั้วมหาวิทยาลัย คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ อาจารย์สอนกฎหมายผู้หนึ่ง นามสกุล "ณ นคร" ประกาศตัวเป็นพันธมิตรฯ นำผ้าสีเหลืองกู้ชาติปิดหน้าประตูพักอาจารย์ ใครไปใครมาก็รู้กันไปเลยว่า เป็นนักกฎหมาย ที่ฝักใฝ่พันธมิตรฯ
กูรูกฎหมายมหาชนรุ่นคุณปู่ชื่อดัง สนใจแนวคิดการเมืองใหม่ของ "คำนูณ สิทธิสมาน" จนถูกกลุ่มอาจารย์หนุ่มสาวที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ประชาธิปไตยแบบตะวันตก ร่วมกันแอนตี้ ...รุมถอนหงอก
แต่ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ แปลกแยกกว่านั้น มีทั้งอาจารย์ที่ขึ้นเวทีพันธมิตรฯ มีทั้งอาจารย์ที่ด่าพันธมิตรฯ มีทั้งอาจารย์ที่ด่าอาจารย์ด้วยกันเองว่า "เฮงซวย มั่วแหลก"
ในห้องเลกเชอร์ระดับปริญญาโท อาจารย์กับลูกศิษย์เถียงกัน เพราะอาจารย์ชื่นชอบทักษิณ แต่ลูกศิษย์เป็นแฟนพันธมิตรฯ
แม้แต่ในการรถไฟแห่งประเทศไทย พนักงานจำนวนมากก็ไม่เห็นด้วยกับสหภาพการรถไฟฯ ที่หยุดเดินรถ ประท้วงรัฐบาล เช่นเดียวกับพนักงานการบินไทย จำนวนไม่น้อยก็รับไม่ได้กับการที่กัปตัน (กู้ชาติ) ไล่ผู้โดยสารลงจากเครื่องบิน ด้วยสาเหตุ ผู้โดยสารเป็น ส.ส.พรรคพลังประชาชน
ถามกันว่า เคยไหมที่สังคมไทย เคยแตกแยกเช่นนี้มาก่อน
คนวัย 40 กว่า อย่าง ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ ผู้เคยผ่านเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 บอกว่า ความแตกร้าวในช่วงขวาพิฆาตซ้าย บาดลึกมิใช่น้อย เพราะในครอบครัวใดที่ลูกสาวลูกชายเข้าป่า ครอบครัวนั้นแทบล่มสลาย
แต่คนวัย 60 กว่า เช่น ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือเอ็กซิมแบงก์ เล่าว่า ความขัดแย้ง พ.ศ.นี้น่าจะเทียบได้กับช่วงหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 ในสมัยรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ครั้งนั้นการต่อสู้ระหว่างคณะราษฎรกับระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ยืดเยื้อยาวนานนับสิบปี
ขณะที่ ดร.สุรชาติ บำรุงสุข คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ และ ดร.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ คณะนิติศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เห็นตรงกันว่า ความขัดแย้งรอบนี้ลึกถึงโครงสร้าง อาจต้องใช้เวลาเยียวยานานนับ 10 ปี ก็เป็นได้ แต่ไม่ว่าคุณจะเป็นรุ่นไหน ถ้าคุณมีสติ และปัญญา คุณย่อมคิดได้เองว่า คุณควรวางตัวเช่นไร! ในห้วงที่คนในบ้านเมืองหลายๆ คน ไร้สติ

"Koh Talu" Amazing Island

Booking Now! Cloud you have amazing trip with us?
Hua Hin Limousine-Taxi service by NUCHNAMCHOK


Sometimes, when we feel so tried from work, we want to have time and a place for ourseives, may be stay alone or stay with friends. However, it must not be too far than we can reach. We wanna to see sparkling sea and dazzingly blue sky. We wanna play sailing kayaking, snorkeling. Somehow, if someone wanna do trekking seeling birds, plants in a beautiful and pure nature. It is here for you to enjoy.

The first time, We came to Koh Talu... In the morning we walked along beach and saw little rocks all over the beach. We know that there must be thousands of crabs. But they are special crabs that make a noise like a clock and they can climb up the tree too. Amazing isn't it?

Here... we can swim anytime, anywhere it is a private Island. In the afternoon... everyone will enjoy many water activitiess.
Seafood is fresh and delicious. Once, we went to cath squids and came back with loads of them. In the evening, we had a fantastic dinner by ourselves.
We love to lay down on white sandy beach, listening to the sound of waves. You may forget your tomorrow work.!! If we are free and want a peaceful and enjoyable holiday, we'll think of "Koh Talu Island Resort"

Weather Forecast Southern(East Coast) Oct 14, 2008

Scattered thundershowers mostly in Phetchaburi, Prachuap Khiri Khan, Chumphon, Surat Thani, Nakhon Si Thammarat, Phatthalung and Songkhla.
Minimum temperature 24 °C.
Maximum temperature 34 °C.
Easterly winds 15-30 km/hr.
Wave height about 1 meter.

Thailand Weather Forecast Oct 14, 2008

High pressure system from China over upper Thailand is weakening, but still persist morning cool with light fog is likely in the upper northern and northeastern Thailand while the rainfall in southern Thailand is greater than the other parts in the period.

Monday, October 13, 2008

ยูทูบ(YouTube)เล็งขายเพลง-เกม กูเกิลทดสอบ"AdSense for Games"

Shishir Mehrotra ประธานฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ของยูทูบ (YouTube) ประกาศแล้วว่า พร้อมจะขายเพลงและวีดีโอเกมบนเว็บไซต์แชร์ไฟล์วีดีโอยอดฮิตแห่งนี้ ขณะเดียวกัน บริษัทแม่อย่างกูเกิลก็ประกาศทดสอบรูปแบบการโฆษณาใหม่ล่าสุดเพื่อเพิ่มช่องทางโกยเงินเข้ากระเป๋า นั่นคือ AdSense for Games เครื่องมือจัดการการแสดงผลโฆษณาบนเกมออนไลน์ที่เชื่อว่าจะมาปฏิวัติวงการโฆษณาบนเกมครั้งใหญ่
เริ่มทำเงินบนยูทูบ การพร้อมขายเพลงและเกมของยูทูบถูกมองว่าเป็นการประเดิมเพื่อกรุยทางเข้าสู่บริการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆในอนาคต เช่น การขายภาพยนตร์ รายการทีวี หนังสือ บัตรคอนเสิร์ต และผลิตภัณฑ์อื่นๆที่เกี่ยวกับสื่อซึ่งมีการเผยแพร่บนวีดีโอในยูทูบ โดยรายงานระบุว่า ผู้ชม YouTube.com สามารถซื้อเพลงจากมิวสิกวีดีโอที่ได้ชมจากยูทูบ ด้วยการคลิกที่ปุ่มซื้อเพลงซึ่งจะเชี่อมกับบริการขายเพลงของอเมซอน (Amazon.com) หรือไอจูนส์ (iTunes) ของแอปเปิล (Apple)
เช่นเดียวกับการขายเเพลง ผู้ใช้ยูทูบจะสามารถซื้อวีดีโอเกมไซ-ไฟยอดฮิตจาก Electronic Arts อย่าง Spore หรือเกมอื่นๆได้ผ่านลิงก์ของอเมซอน โดยรายงานระบุว่าทั้งอเมซอนและไอจูนส์จะแบ่งรายได้ให้ยูทูบเมื่อลูกค้าคลิกซื้อคอนเทนท์ขณะชมวีดีโอ
นักลงทุนนั้นตั้งคำถามกับกูเกิลมาตลอดว่าจะเริ่มทำตลาดยูทูบให้สมกับที่ใช้เงินมหาศาลถึง 1.65 พันล้านเหรียญทุ่มซื้อมาในปี 2006 เมื่อใด เชื่อว่าเวลาเหมาะสมและโอกาสที่สวยงามเช่นนี้คงจะเป็นคำตอบที่สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนทั่วโลก อย่างไรก็ตาม แม้กูเกิลไม่ได้ให้ข้อมูลว่าคาดหวังให้ยูทูบทำกำไรให้บริษัทเป็นมูลค่าเท่าใด แต่นักวิจัยเชื่อว่า ยูทูบจะสามารถทำเงินให้กูเกิลถึง 200 ล้านเหรียญในปีหน้า (2009) ถือว่ายังน้อยนักเมื่อเทียบกับ 2.7 หมื่นล้านเหรียญที่คาดว่าจะเป็นรายได้รวมทั้งหมดของกูเกิลในช่วงเวลานั้น
จนถึงปัจจุบัน ยูทูบประกาศจุดยืนว่ามีรายรับจากการโฆษณาเป็นหลัก และได้พยายามเพิ่มความสามารถด้านการโฆษณามาตลอด ยูทูบเชื่อว่าบริษัทมีโอกาสเติบโตในธุรกิจโฆษณาที่ดีเพราะความนิยมใช้งานมากมายในวงกว้าง โดยสถิติการใช้งานล่าสุดของยูทูบคือ ทุกนาทีจะมีผู้อัปโหลดไฟล์วีดีโอคิดเป็นความยาว 13 ชั่วโมง
ตามข้อมูลจากคอมสกอร์ (comScore) ผู้สำรวจพฤติกรรมการใช่งานอินเทอร์เน็ต ยูทูบนั้นมียอดผู้เข้าชมราว 330 ล้านราย (สถิติประจำเดือนสิงหาคม 2008)
Shishir Mehrotra ผู้บริหารยูทูบให้สัมภาษณ์ด้วยว่า ยูทูบได้ดำเนินการทดสอบผลิตภัณฑ์และบริการมากมายซึ่งมีทั้งประสบความเร็จและไม่เป็นไปตามที่หวังไว้ หนึ่งในนั้นคือ InVideo รูปแบบการโฆษณาด้วยข้อความสำหรับแสดงด้านล่างไฟล์วีดีโอ กลุ่มตลาดคือนักการตลาดและวีดีโอโฆษณาโฮมเพจตัวเอง
จุดนี้ Mehrotra เชื่อว่าโฆษณาที่แสดงก่อนวีดีโอเริ่ม 10-20 นาทีหรือที่เรียกว่า pre-roll advertising นั้นไม่ใช่รูปแบบที่เหมาะสำหรับนำมาใช้กับคลิปวีดีโอขนาดสั้นที่มีอยู่มากบนยูทูบ ยูทูบจึงไม่คิดจะดึง pre-roll ads มาใช้แต่จะนำระบบเลขประจำตัววีดีโอหรือ video ID system มาเป็นตัวช่วยในการโฆษณาแทน
ระบบ Video ID จะสามารถบอกข้อมูลให้บริษัทเจ้าของคอนเทนท์ทั้งเพลงและรายการทีวี รับรู้ว่าผู้ใช้ได้อัปโหลดคลิปวีดีโอซึ่งคัดลอกคอนเทนท์ของบริษัทไว้เมื่อไหร่ จากนั้นบริษัทเจ้าของคอนเทนท์ก็จะสามารถแทรกโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับคลิปนั้นๆได้อย่างตรงจุด หรือสามารถลบวีดีโอโดยใช้ระบบ video ID เช่นกัน
สยายปีก AdSense คลุมธุรกิจเกมออนไลน์ กูเกิลประกาศทดสอบโครงการ "AdSense for Games" เบต้าเวอร์ชันแล้วเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ยืดหลักการเดิมนั้นคือการจับคู่โฆษณาเข้ากับเว็บไซต์ แตกต่างเพียงจะเป็นการจับคู่โฆษณาเข้ากับเว็บเกมออนไลน์ ซึ่งโฆษณาที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นวัยรุ่นชายที่นิยมเกมแอคชั่นและกีฬา จะสามารถแสดงเป็นวีดีโอซึ่งผู้เล่นเกมจะสามารถชมก่อนหรือหลังเล่นเกม รวมถึงช่วงหลังจากผ่านเลเวลขึ้นด่านใหม่
Christian Oestlien ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์ของกูเกิลเชื่อว่า AdSense ในเว็บเกมออนไลน์จะเติมเต็มความต้องการของนักโฆษณาให้สามารถเข้าถึงกลุ่มตลาดที่ดีขึ้นกว่าเดิม ขณะที่นักวิเคราะห์เชื่อว่า กูเกิลต้องทำทุกวิถีทางเพื่อป้องกันวิกฤตจากภาวะโฆษณาออนไลน์ตกต่ำ ซึ่งอาจเกิดขึ้นเมื่อถึงช่วงเศรษฐกิจขาลงขั้นสาหัส
ที่ผ่านมา กูเกิลนั้นซื้อบริษัท Adscape Media บริษัทโฆษณาในเกมขนาดเล็กเมื่อปี 2007 ช้ากว่าไมโครซอฟท์ซึ่งชิงซื้อบริษัทโฆษณาในเกมนาม Massive ก่อนหน้านั้นราว 1 ปี ขณะที่ยาฮู (Yahoo) คู่แข่งอีกรายของกูเกิลนั้นให้บริการโฆษณาบนเกม และบริการดาวน์โหลดเกมแล้วในขณะนี้ โดยบริษัทที่ทำธุรกิจขายโฆษณาบนเกมแบบฝังรวมไปกับเกมอยู่ก่อนแล้วในขณะนี้ได้แก่ Double Fusion และ NeoEdge
รายงานยกตัวอย่างพันธมิตรบริการโฆษณาบนเกมของกูเกิลเพียงรายเดียว นั้นคือบริษัท Mochi Media ซึ่งถูกระบุว่าจะเป็นพันธมิตรกับกูเกิลในการให้บริการโฆษณาบนเกมในภูมิภาคยุโรป เชื่อว่าวงการโฆษณาบนเกมจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่น่าจับตา

โดย ผู้จัดการออนไลน์
9 ตุลาคม 2551 06:56 น.

7 ต.ค.วันทรราชพิฆาตประชาชน ทำยอดข่าวสั้น SMS พุ่งกระฉูด


ประเทศไทยต้องจารึกว่า 7 ตุลาทมิฬ วันทรราชฆ่าประชาชน คือวันที่ข่าวSMSหรือข่าวข้อความสั้นทางโทรศัพท์มือถือถูกส่งให้ประชาชนชาวไทยมากที่สุด ยอดส่งเพิ่มกระฉูดจากเดิมมากกว่า 2 เท่าตัว ความต้องการรับทราบข้อมูลข่าวสารของมวลชนทำให้โอเปอเรเตอร์บางรายเลิกจำกัดจำนวนSMSข่าวไปโดยปริยาย ในขณะที่การบิดเบือนข่าวสารทำได้ยาก และหากสื่อไหนกล้าทำอนาคตรางเลือน

นายนิรันดร์ เยาวภาว์ เว็บมาสเตอร์ผู้จัดการออนไลน์ กล่าวถึงการให้บริการข้อความข่าวทางโทรศัพท์มือถือของผู้จัดการออนไลน์ว่า เหตุการณ์ตำรวจเข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยวันที่ 7 ตุลาคม 2551 เป็นวันที่การส่งข่าวSMSไปยังประชาชนมีจำนวนสูงสุด โดยข้อความกว่า 90 เปอร์เซ็นต์เป็นข่าวการเมือง

"เวลามีสถานการณ์ตึงเครียดจำนวนข่าวจะเพิ่มเกินครึ่งหนึ่ง ปกติ โอเปอเรเตอร์อย่างดีแทคและเอไอเอสจะจำกัดข่าว SMS ไว้ที่ 6-8 ข่าวต่อหมวดต่อวัน เหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค.ทำให้มีจำนวนข่าวเพิ่มขึ้นประมาณ 20 ข่าวต่อหมวด เพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว และเมื่อเกิดเหตุการณ์ โอเปอเรเตอร์ก็เริ่มไม่จำกัดจำนวนข่าวที่ส่งให้ผู้บริโภค" นายนิรันดร์กล่าว

โอเปอเรเตอร์นั้นต้องจำกัดจำนวนข่าวSMSที่ส่งให้ผู้บริโภคเพื่อควบคุมต้นทุนให้เป็นไปตามนโยบายของบริษัท การส่งข่าวSMSของผู้จัดการจะส่งโดยแบ่งประเภทเป็นหมวดย่อย ได้แก่ หมวดทั่วไป การเมือง เศรษฐกิจ กีฬา และบันเทิง เป็นต้น หนึ่งข้อความข่าวสามารถนำไปใส่ไว้ในหลายหมวดได้ โดยจำนวนข่าวปกติอยู่ที่ 15 ข่าวต่อหมวดต่อวัน ข่าวบางส่วนเท่านั้นที่จะถูกส่งถึงผู้บริโภค

"ข่าวทางSMSเร็วกว่าข่าวทุกช่องทาง เพราะเป็นข้อความสั้น ขั้นตอนไม่มีอะไรมาก เร็วกว่าข่าวออนไลน์ด้วย เพราะข่าวออนไลน์ยังต้องมีการคิดหัวข้อความ โปรยข่าว เนื้อข่าว และยังมีขั้นตอนของการออกแบบข่าวและการให้เซิร์ฟเวอร์ประมวลผล สำหรับผู้จัดการเรามีนโยบายขึ้นทั้งสองส่วนให้พร้อมกัน ต้นทุนเราตายตัว ข่าวมากหรือน้อยทุนก็ไม่เพิ่มขึ้น" นายนิรันดร์กล่าว

จากการสำรวจผู้ใช้บริการSMSข่าวของสำนักข่าว INN พบว่าข้อความที่ถูกส่งมาในช่วงวันที่ 7 ตุลาคม (เริ่มนับเวลาเที่ยงคืน) มีทั้งสิ้น 39 ข้อความ เป็นข้อความข่าวการเมืองทั้งหมด

ข่าวบนมือถือโตต่อเนื่อง 3 ปีมีผู้ใช้งาน 2 ล้านคนต่อเดือน ไอเอ็นเอ็นคนขายข่าวรับ ยอด SMS พุ่งทุกครั้งที่เกิดเหตุรุนแรง ชี้เหตุสลายการชุมนุมน่าจะดันยอดดูข่าวผ่านมือถือกระฉูดไม่น้อยหน้าการปฏิวัติ ระบุการบิดเบือนข่าวทำได้ยากเพราะผู้บริโภคตัดสินใจรับเนื้อหาได้เอง ด้านเอไอเอสระบุยอดข่าวบนมือถือเป็นรองแค่บริการโหลดเพลง

นายวันชัย ปิณฑะบุตร กรรมการผู้จัดการใหญ่สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น เปิดเผยว่า ปัจจุบันธุรกิจข่าวบนมือถือมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมียอดผู้ใช้งานในตลาดรวมเพิ่มขึ้นเป็น 1.5 -2 ล้านรายต่อเดือน จากเริ่มต้น 3 ปีที่ผ่านมามีผู้ใช้งานเพียง 1.5 หมื่นรายต่อเดือน

ทั้งนี้ความต้องการบริโภคข่าวบนมือถือ จะมีความต้องการเพิ่มมากขึ้นอย่างชัดเจน เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติ โดยจะเห็นได้จากเหตุการณ์ปฏิวัติเมื่อวัน 19 ก.ย. 2549 ที่มีปริมาณการดูข่าวบนมือถือเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก สำหรับเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค.2551 จะเห็นตัวเลขการบริโภคข่าวบนมือถือในเดือน พ.ย.2551 ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณการใช้งานสูงเช่นเดียวกับเหตุการณ์ปฏิวัติ

“จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ประชาชนจะมีความต้องการบริโภคข่าวบนมือถือเพิ่มขึ้นเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติหรือเกิดเหตุรุนแรง ฉะนั้นเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่ผ่านมาเชื่อว่าจะมีปริมาณบริโภคข่าวบนมือถือจำนวนมากเหมือนเหตุการณ์ปฏิวัติเมื่อวันที่ 19ก.ย.2549” นายวันชัยกล่าว

อย่างไรก็ดีการบริโภคข่าวบนมือถือส่วนใหญ่ผู้บริโภคยังนิยมดูข่าวสารผ่าน SMS มากกว่าดูผ่าน MMS และวิดีโอสตรีมมิ่ง เนื่องจากผู้บริโภคต้องการบริโภคข่าวอย่างรวดเร็วทันเหตุการณ์และสรุปประเด็นข่าวหรือหัวข่าวสั้นๆเข้าใจได้ทันที แนวโน้มการเติบโตของ SMS นั้นยังเติบโตได้อย่างไม่มีข้อจำกัด เนื่องจากผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ง่ายเพราะไม่จำเป็นต้องมีโทรศัพท์มือถือราคาแพงเพียงมีคุณสมบัติการใช้งานระดับพื้นฐาน ส่วนผู้รับรู้ข่าวสารบนมือถือส่วนใหญ่ยังเป็นคนในเมืองมากกว่าคนต่างจังหวัด

นายวันชัยกล่าวต่อว่า สำหรับการรับข่าวบนมือถือผ่าน MMS และวืดีโอสตรีมมิ่งอยู่ในระหว่างการไต่ระดับการเจริญเติบโต เนื่องจากบริการดังกล่าวจะต้องอาศัยเครื่องลูกข่ายที่มีความสามารถในการใช้งานสูง และใช้พื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลสูง MMS 1 ข้อความใช้พื้นที่จัดเก็บมากถึง 100 กิโลไบต์ แต่ SMS ใช้พื้นที่เพียง 1 กิโลไบต์ต่อ1 ข้อความ ประกอบกับเทคโนโลยีปัจจุบันยังมีความเร็วไม่เพียงพอรับข้อมูลภาพอย่างมีประสิทธิภาพ ฉะนั้นการรับข่าวผ่าน MMS และวิดีโอสตรีมมิ่ง จะมีปริมาณการเติบโตมากขึ้นเมื่อเทคโนโลยี 3G และมีการใช้งานเครื่องลูกข่ายที่มีประสิทธิภาพสูงในตลาดมากขึ้น

สำหรับกรณีการบิดเบือนข่าวสารในเหตุการณ์ไม่ปกตินั้น มองว่าเรื่องนี้ที่สุดแล้วผู้บริโภคข่าวจะเป็นผู้ตัดสินเลือกรับข่าวสารด้วยตัวเอง ส่วนผู้ที่เสนอข่าวบิดเบือนสุดท้ายก็จะถูกปฏิเสธรับข่าวสารจากผู้บริโภคเอง

นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) หรือ เอไอเอส เปิดเผยว่า บริการข่าวบนมือถือยังสามารถเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้สามารถทำรายได้เป็นรองคอนเทนต์เพลงเท่านั้น ปัจจุบันในตลาดรวมมีผู้บริโภคข่าวบนมือถือทั้งหมดมากกว่า 2 ล้านคน ซึ่ง 90% ยังเป็นการรับข่าวผ่าน SMS สำหรับการรับข่าวสารผ่าน MMS และคลิปวิดีโอนั้นมีเพียง 10% เท่านั้น

โดยสาเหตุที่มีความต้องการบริโภคข่าวผ่าน MMS และคลิปวิดีโอ ในปริมาณไม่มากนักเนื่องจากการใช้งานลักษณะดังกล่าวจะต้องอาศัยเครื่องลูกข่ายที่มีความสามารถในการใช้งานสูง ซึ่งมีราคาสูงคนส่วนใหญ่ในประเทศยังเข้าถึงได้น้อย แต่ในอนาคตหากคนสามารถเข้าถึงมือถือคุณภาพสูงได้มากขึ้นเชื่อว่าการใช้งานผ่าน MMS และคลิปวิดีโอ จะเพิ่มขึ้นตาม

ทั้งนี้ สาเหตุที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังนิยมรับข่าวสารผ่าน SMS มากกว่าสื่อรูปแบบอื่นบนมือถือ เป็นเพราะผู้บริโภคต้องการรับรู้ข่าวที่มีความเคลื่อนไหวที่รวดเร็วทันสถานการณ์และสรุปเพียงพาดหัวสั้นๆ ประกอบกับคนส่วนใหญ่ยังใช้เครื่องลูกข่ายที่รองรับการใช้งาน SMS ส่วนข่าวในเชิงลึก หรือรายละเอียดของข่าวนั้นผู้บริโภคข่าวจะหาเพิ่มเติมตามหนังสือพิมพ์ เว็บไซต์และโทรทัศน์ภายหลัง สำหรับปัจจัยกระตุ้นให้การบริโภคข่าวบนมือถือเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากปัจจุบันผู้ผลิตคอนเทนต์ข่าวทั้ง สื่อโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ เว็บไซต์หันมาทำข่าวบนมือถือป้อนให้ลูกค้ามากยิ่งขึ้น

สำหรับกรณีการเสนอข่าวบิดเบือนนั้นเชื่อว่าปัจจุบันมีน้อยลง เนื่องจากการเสนอข่าวบิดเบือนทำให้เกิดภาพเชิงลบกับสำนักข่าวนั้นๆ ประกอบกับผู้บริโภคสามารถตัดสินใจเลือกรับข่าวสารได้ด้วยตัวเอง


โดย ผู้จัดการออนไลน์
9 ตุลาคม 2551 11:00 น.